16 มิถุนายน 2559

THROWB(L)VCK THURSDAY : BLVCK IS ...

THROWB(L)VCK THURSDAY ในวันนี้ไม่ได้พาย้อนกลับไปดูคอลเล็กชั่นใดคอลเล็กชั่นหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ขอเอานิยามที่ Yohji Yamamoto เคยให้ไว้กับ 'สีดำ' มาแบ่งปันกันอีกครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วนอกจาก Yohji Yamamoto ก็ยังมีดีไซเนอร์อีกหลายท่านที่เคยให้นิยามเกี่ยวกับสีดำเอาไว้ต่างๆนา และก็เชื่อว่านอกจากแฟชั่นดีไซเนอร์แล้ว แฟชั่นนิสต้าทั่วโลกก็คงมีนิยามเกี่ยวกับสีดำอยู่ในใจ และมีเหตุผลที่ลุกขึ้นมาใส่ 'สีดำ' เพราะความชอบที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ Yohji Yamamoto กลายเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ที่หยิบสีดำมาใส่ไว้ในคอลเล็กชั่นจนได้มู้ดที่หลากหลาย สามารถสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นสีดำได้อย่างหลากสไตล์ ไม่เพียงแต่รูปแบบแฟชั่นในแนว Gothic เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นสีดำที่ดูเท่ และดูโรแมนติกได้สุดๆเช่นกัน คอลเล็กชั่นของ Yohji Yamamoto ในไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากซิกเนเจอร์ไลน์ หรือ Y-3 จึงถูกใจคอแฟชั่นจากทั่วโลก มีแฟนๆเฝ้าคอยผลงานสำหรับคอลเล็กชั่นใหม่อย่างต่อเนื่องนานข้ามศตวรรษ


นิยามของสีดำโดย Yohji Yamamoto

สำหรับแฟนๆของ Yohji Yamamoto หรือใครที่ชื่นชอบแฟชั่น โดยเฉพาะกับผลงานการสร้างสรรค์เสื้อผ้าด้วยรูปแบบ Deconstruction และ Reconstruction ซึ่งมีสีดำเป็นสีหลักก็สามารถชื่นชมผลงานบางส่วนจากคอลเล็กชั่นในอดีต ซึ่งจัดแสดงอยู่บริเวณโซนด้านหน้าของ ชั้น 1 ที่ Siam Discovery โฉมใหม่ที่เปิดให้บริการมาแล้วเกือบ 3 สัปดาห์ Yohji Yamamoto นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ด้านแฟชั่นคนหนึ่งของโลก การได้เห็นผลงานชิ้นเด่นๆจากคอลเล็กชั่นต่างๆจึงเหมือนการได้ดื่มด่ำกับงานศิลป์ชั้นยอด และอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักออกแบบรุ่นใหม่ ได้นำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงานในแบบฉบับของตัวเองต่อไป เช่นชุดจากในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2000 ที่นำมาจัดแสดง ซึ่งดูเรียบง่าย เน้นโครงสร้างสอดรับกับสรีระของผู้หญิง แม้เวลาผ่านไปแล้ว 16 ปี แต่ชุดนี้ยังดูร่วมสมัย และสวมใส่ได้อย่างไร้กาลเวลา จึงกลายเป็นอีกหนึ่งชุดที่ส่วนตัวชื่นชอบเป็นพิเศษ


สีดำของ Yohji Yamamoto Spring/Summer 2000

นอกจากในส่วนของซิกเนเจอร์ไลน์ และไลน์รองของ Yohji Yamamoto แล้ว ในส่วนของ Y-3 สปอร์ตตี้ แฟชั่นที่ร่วมกันสร้างสรรค์กับ Adidas ก็ครองใจสากวก Street Fashion ทั่วโลกเช่นกัน เพราะคอลเล็กชั่นของ Y-3 คือการนำเสนอให้เห็นว่าเมื่อผลงานแฟชั่นในแนว Avant-Garde และ Sporty ได้มารวมอยู่ด้วยกันแล้วกลายเป็น Menswear และ Womenswear Collection ซึ่งดูเท่ไม่เป็นสองรองใคร อย่างที่เห็นได้จากตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา Yohji Yamamoto ยังคงพา Y-3 ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกระแสตอบรับซึ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการนำสีดำไปใช้ในคอลเล็กชั่นของ Y-3 ก็ดูหลากหลายและทำใ้ห้เห็นว่าสีดำ และ Sporty สไตล์เข้ากันได้เป็นอย่างดี แฟนๆของ Yohji Yamamoto ที่กำลังรอคอยผลงานครั้งใหม่ สำหรับคอลเล็กชั่น Mens S/S 2017 ในสัปดาห์หน้า ก็คงต้องคอยจับตาดูให้ดี เพราะเชื่อว่าดีไซเนอร์คนเก่งคนนี้จะต้องมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ ให้กับแฟนๆของทั้ง Yohji Yamamoto และ Y-3 อย่างแน่นอนครับ ^__^


ดีไซเนอร์ Yohji Yamamoto


ภาพสเก็ตช์ของ Yohji Yamamoto บนชิ้นงานของ Y-3


 Y-3 Spring/Summer 2017 จะโชว์ในสัปดาห์หน้า

9 มิถุนายน 2559

Givenchy Resort 2017


Givenchy Resort 2017

THROWB(L)VCK THURSDAY : Gareth Pugh 'BLACK PRISM'

THROWB(L)VCK THURSDAY พฤหัสบดีนี้ พาย้อนกลับไปดูหนึ่งในชุดเด่น ของหนึ่งในดีไซเนอร์ประจำศตวรรษนี้ที่ส่วนตัวชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่งซึ่งก็คือ Gareth Pugh แฟชั่นดีไซเนอร์อีกคนที่ส่วนตัวบอกได้เลยว่าชื่นชอบผลงานทุกๆคอลเล็กชั่น ตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรกเมื่อกลางทศวรรษก่อนที่โชว์ใน London, Fashion East จนข้ามมาโชว์ใน Paris จากการสนับสนุนโดย Rick Owens ดีไซเนอร์คนเก่งที่ Gareth Pugh เคยฝึกงานด้วย ก่อนที่จะกลับไปโชว์ใน London บ้านเกิดอีกครั้ง แต่ไม่ว่าโชว์ผลงานที่ใด คอลเล็กชั่นของ Gareth Pugh ก็เป็นที่น่าสนใจเสมอ ทั้งรูปแบบงานแพทเทิร์นในแบบเฉพาะตัว รายละเอียดที่ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ และสังเคราะห์ รวมไปถึงในส่วนของสไตล์ลิ่งที่อาจดูเกินจริงในแบบของ Dramatic Fashion ดูเพ้อฝันและเหมือนหลุดมาจากโลก Sci-Fi แต่ทั้งหมดนั้นทำให้ผลงานของ Gareth Pugh ดูโดดเด่น และแตกต่างจากอีกหลายๆดีไซเนอร์ในปัจจุบัน อย่างเช่นชุดที่ส่วนตัวขอเรียกเล่นๆว่า 'BLACK PRISM' จากคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2007 ชุดนี้ ที่เชื่อว่าหลายคนคงผ่านตาจากการที่ศิลปินดังเช่น Lady Gaga ใส่มาบ้างแล้ว


Gareth Pugh Spring/Summer 2007

เมื่อก่อน บอร์ดแฟชั่นไทยในเว็บไซต์ Thaicatwalk ก็มีการวิจารณ์คอลเล็กชั่นนี้ของ Gareth Pugh ต่างๆนาๆ ซึ่งแน่นอนว่าคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่ดูหลุดโลกขนาดนี้ย่อมทำให้ชื่อของ Gareth Pugh ถูกนำไปเปรียบเทียบกับดีไซเนอร์อย่าง Alexander McQueen และ Martin Margiela เพียงแต่ที่ต่างกันนั่นก็คือในเรื่องของเงินทุนในการสนับสนุน แต่รูปแบบของโชว์ที่ดูเรียบง่าย เน้นให้โฟกัสในส่วนของรายละเอียดของชุดเพียงสิบกว่าลุค ก็เพียงพอให้ Gareth Pugh มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นมาได้ไม่ยาก คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2007 ของ Gareth Pugh ที่มาด้วยคู่สีขาวดำในรูปแบบ Monochrome และลวดลาย Checkered Flag ถูกเติมเต็มด้วยสไตล์ลิ่งเช่นบอดี้สูท latex ที่ทำให้นึกถึง Leigh Bowery พร้อมเครื่องประดับโดย Judy Blame แม้ผลงานมีเพียงสิบกว่าลุค แต่ทุกชุดล้วนดูน่าสนใจทั้งการใช้ชิ้นงาน Triangular Pattern ของถนัด งานถัก และการผสมผสานวัสดุต่างๆเข้าด้วยกัน โดยมีชุดสุด Avant-Garde  ที่เหมือนหลุดมาจากโลก Sci-Fi 'BLACK PRISM' ชุดนี้เป็นหนึ่งในชุดเด่นจากคอลเล็กชั่นที่กำลังจะครบ 1 ทศวรรษในอีกไม่นาน


Lady Gaga in Gareth Pugh S/S 2007

ด้วยความโด่งดังของคอลเล็กชั่นนี้ จึงมีเหล่าศิลปินดังอย่าง Kylie Minogue และ Lady Gaga หยิบยืมไปใช้ทั้งใน Music Video และการแสดงคอนเสิร์ต รวมทั้งรูปแบบของ Triangular Pattern ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ประจำตัวของ Pugh ไปโดยปริยาย, ในปี 2011 ได้มีผลงานชิ้นพิเศษจากการร่วมงานออกแบบระหว่าง Gareth Pugh และ Absolut Vodka ได้มาซึ่งขวด BLACK PRISM ที่ดึงรูปแบบของชุดตัวเก่งชุดนี้มาใช้ ส่วนตัวมีโอกาสได้ชื่นชมขวดชิ้นนี้ที่แสดงอยู่ในงาน Seoul Fashion Week ที่ประเทศเกาหลีใต้ ปลายปี 2011 ก็บอกได้เลยว่ากลายเป็นขวด Absolut Vodka ขวดพิเศษโดยดีไซเนอร์ที่ชอบมากที่สุด อีกทั้งเมื่อ Gareth Pugh มีสโตร์แห่งแรกที่เปิดใน Hong Kong ในปี 2010 (ปัจจุบันปิดไปแล้ว) ก็ได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านมาจาก Triangular Pattern จากคอลเล็กชั่นนี้เช่นกัน ทั้งในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงห้องลอง ทำให้กลายเป็นร้านเสื้อผ้าที่ดูโดดเด่นที่สุดร้านหนึ่งใน Hong Kong ขณะนั้น ซึ่งทั้งหมดล้วนต่อเนื่องมาจากคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2007 และชุดของ Pugh ที่เป็นตำนานชุดนี้ครับ ^__^


ABSOLUT VODKA x Gareth Pugh, 2011


ห้องลองที่ดูโดดเด่นของร้าน Gareth Pugh ใน Hong Kong 


ร้าน Gareth Pugh ร้านแรกใน Hong Kong (เปิดบริการปี 2010 - 2014)


2 มิถุนายน 2559

THROWB(L)VCK THURSDAY : Gucci F/W 2002

THROWB(L)VCK THURSDAY วันพฤหัสบดีนี้ ขอพาย้อนกลับไปดูคอลเล็กชั่นสีดำของ Gucci ฤดูหนาวปี 2002 ซึ่งสร้างสรรค์โดย Tom Ford ถึงแม้จะผ่านไปแล้ว 14 ปี แต่ส่วนตัวยังขอยกให้ผลงานของ Tom Ford สำหรับ Gucci คอลเล็กชั่นนี้ ยังคงเป็นคอลเล็กชั่นของ Gucci ที่สวยที่สุดคอลเล็กชั่นหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ Tom Ford ได้ทำให้ Gucci Group (ชื่อเดิมในขณะนั้น) ได้กำไรมหาศาลจากงานขายที่มาพร้อมสารพัดแฟชั่นไอเท็มมีโลโก้ตัว G ติดอยู่ทั้งแว่นตา, นาฬิกา, เข็มขัด ซึ่งฮอตฮิตติดลมบนในช่วงปลาย 90's แล้ว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 Tom Ford ได้พยายามผลักดันให้ Gucci มีในส่วนของ Couture ไลน์เช่นเดียวกับห้องเสื้อรายใหญ่ในอิตาลี่เช่น Versace แต่เมื่อไม่เป็นผลสำเร็จ ในช่วงต้นปี 2002 ตัว Tom Ford จึงได้สร้างสรรค์คอลเล็กชั่นฤดูหนาว 2002 สำหรับ Gucci ที่แสดงให้เห็นว่า นอกจากเสื้อซีทรู ชุด G-String และรองเท้าส้นเข็มแหลมปรี๊ดสำหรับสาวเซ็กซี่แล้ว เค้าก็สามารถสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นสุดหรูเทียบเท่างานระดับ Couture ได้เช่นกัน จึงทำให้ Gucci คอลเล็กชั่นนี้กลายเป็นคอลเล็กชั่นหรูหราที่สุดคอลเล็กชั่นหนึ่ง


GUCCI Fall/Winter 2002

สำหรับเมืองไทย หากย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2002 หลังจากที่ห้าง 'Gaysorn Plaza' โฉมใหม่ (ในขณะนั้น) ได้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ก็ประเดิมด้วยโชว์ของ Gucci F/W 2002 โดยจำลองรูปแบบของโชว์ที่ Milan มาไว้ในห้าง อย่างเช่นพรมขนแกะสีขาว ที่กลายมาเป็นพื้นรันเวย์ ตัดกันกับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสีดำ ทั้งในส่วนของ Womenswear และ Menswear อีกทั้งนิตยสารเล่มต่างๆ ยังโหมโปรโมทคอลเล็กชั่นนี้ด้วยรันเวย์ไอเท็มสวยๆมากมาย แม้บางชิ้นไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายมากนัก อย่างเช่นสร้อยคอลูกปัดพร้อมจี้ไม้เกงเขนสีดำ แต่ก็ทำให้เกิดกระแสไม้กางเขนฟีเวอร์ในขณะนั้น ซึ่งร้านจำหน่ายเสื้อผ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ หรือตามตลาดนัดทั่วไป ก็ต้องมีสร้อยคอพร้อมจี้กางเขน(จะให้อินสุดๆต้องเป็นไม้)เช่นเดียวกับที่เห็นบนรันเวย์ของ Gucci Fall/Winter 2002 นี้ เรียกได้ว่าเป็นคอลเล็กชั่นของ Gucci ที่ดูสวยทั้งในส่วนของคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า จนถึง Accessories ที่กลายเป็นกระแสและสร้างกำไรได้อีกหนึ่งคอลเล็กชั่น ก่อนที่ทุกคอลเล็กชั่นที่ตามมาจะต้องมีชิ้นเติมเต็มด้วยเสื้อผ้าที่ดูหรูหรา อย่างเช่นในคอลเล็กชั่นนี้


GUCCI F/W 2002, AD Campaign

Gucci คอลเล็กชั่นฤดูหนาวปี 2002 โดย Tom Ford เป็นคอลเล็กชั่นซึ่งยื้นพื้นด้วยสีดำแบบโททัลลุค เช่นเดียวกับที่เห็นได้จากผลงานของ Tom Ford สำหรับ Gucci ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์ขาว-ดำในช่วงยุค 20s - 30s บวกด้วยศิลปะ Gothic และความประทับใจที่มีต่อทริปญี่ปุ่น ทำให้เราได้เห็นสาว Gucci ในเวอร์ชั่นโลกตะวันออกพบโลกตะวันตกอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคอลเล็กชั่นที่เน้นในส่วนของเทคนิค การตัดเย็บ ได้มาซึ่งหลายชิ้นงานซึ่งดูหรูหรา เช่นเดรสผ้าไหม Bias Cut ตัวเก่งอย่างที่เห็นในช่วงท้ายของรันเวย์ หรือจะเป็น Cardigan ขนสัตว์ย้อมสีดำให้เข้ากับเนื้อผ้า ทั้งหมดล้วนมาด้วยวัสดุสุดหรูคู่ฤดูหนาว และเหมาะกับสาวๆของ Gucci ที่รักความพิเศษสุดๆ อีกทั้ง Accessories ที่ช่วยเติมเต็มให้คอลเล็กชั่นนี้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น ทั้งสร้อยคอลูกปัดพร้อมจี้กางเขนไม้ เข้าคู่กับกำไล และเข็มขัด Obi ตามแบบฉบับสาวๆแดนอาทิตย์อุทัยก็ทำให้ผลงานในแนว Gothic แฟชั่นนั้นดูนุ่มนวล และโรแมนติกมากขึ้นทีเดียว ซึ่งสามารถชมรันเวย์โชว์คอลเล็กชั่นนี้ได้เต็มๆจากในคลิปด้านล่างเลยครับ ^__^ 


แว่นตา และสร้อยลูกปัดพร้อมจี้กางเขนไม้สีดำ Gucci F/W 2002


หนึ่งในเดรสตัวสวยประจำคอลเล็กชั่น (รูปภาพ : www.1stdibs.com)


คุณแอนดริว เกร็กสันในชุด Gucci F/W 2002 บนปกนิตยสารแพรว